5 จัดที่ต้องหลีกเลี่ยงในการเลือกฟอนต์ในการออกแบบ

Last updated: 16 ต.ค. 2567  |  8 จำนวนผู้เข้าชม  | 

5 จัดที่ต้องหลีกเลี่ยงในการเลือกฟอนต์ในการออกแบบ

5 จัดที่ต้องหลีกเลี่ยงในการเลือกฟอนต์ในการออกแบบ

การเลือกฟอนต์ (font) สำหรับการออกแบบนั้นมีความสำคัญอย่างมาก เพราะฟอนต์สามารถสื่อความหมาย อารมณ์ และเน้นเรื่องราวที่นักออกแบบต้องการสื่อให้ผู้บริโภคได้รับรู้ ต่อมาคือ 5 ข้อผิดพลาดที่ควรหลีกเลี่ยงในการเลือกฟอนต์เพื่อนำมาใช้ในงานออกแบบ

1. การใช้ฟอนต์มากเกินไป
การใช้ฟอนต์หลายๆฟอนต์ในงานออกแบบเดียวกันอาจจะทำให้การออกแบบมีความยุ่งยากและทำให้ผู้บริโภคสับสนต่อข้อความที่คุณต้องการสื่อ ดังนั้นการใช้ฟอนต์หลายๆฟอนต์ในงานออกแบบเดียวมีข้อเสียดังนี้

  • สร้างความสับสน : หากใช้ฟอนต์มากเกินไป จะทำให้ผู้อ่านสับสนและไม่รู้ว่าควรสนใจข้อความใดก่อน
  • ขาดความเป็นมืออาชีพ : การใช้ฟอนต์หลายๆ รูปแบบในการออกแบบงานเดียวอาจทำให้ดูว่าคุณไม่มีความแน่นอนในการสื่อสาร
  • ความสมดุล : การใช้ฟอนต์หลายๆ ประเภทอาจจะทำให้การออกแบบขาดความสมดุล
  • ขัดต่อความคิดเชื่อมโยง : แต่ละฟอนต์มีความหมายและความรู้สึกที่ต่างกัน การใช้ฟอนต์มากๆอาจทำให้สื่อข้อความหลากหลายเกินไป และสร้างความขัดแย้งในการสื่อสาร


ดังนั้นจึงแนะนำให้ผู้ออกแบบมีการเลือกฟอนต์อย่างระมัดระวัง เน้นให้มีความคิดเชื่อมโยง และความเป็นระบบ ควรเลือกใช้ฟอนต์ 2-3 รูปแบบในหนึ่งงานออกแบบ

2. การเลือกฟอนต์ที่อ่านยาก
ฟอนต์ที่อ่านยากไม่เพียงแต่จะทำให้การสื่อสารไม่มีประสิทธิภาพ แต่ยังส่งผลเสียต่อการรับรู้และความน่าเชื่อถือของการออกแบบ ดังนั้นเหตุผลที่ไม่ควรเลือกใช้ฟอนต์ที่อ่านยากมีดังนี้

  • ความเข้าใจ : ฟอนต์ที่อ่านยากจะทำให้ผู้อ่านตีความได้ยาก ซึ่งอาจนำไปสู่การเข้าใจผิด
  • ความจำ : ข้อความที่ใช้ฟอนต์ที่อ่านยากนั้นจะถูกจำได้ยาก เนื่องจากผู้อ่านต้องใช้เวลาในการอ่าน
  • เวลา : การอ่านฟอนต์ที่ยากเกินไปอาจทำให้ผู้อ่านรู้สึกว่าเสียเวลา และทำให้ไม่อยากอ่าน
  • ความน่าเชื่อถือ : การใช้ฟอนต์ที่ไม่สามารถอ่านได้อย่างชัดเจนจะทำให้ข้อความหรือแบรนด์ดูไม่มีความน่าเชื่อถือ และขาดความเป็นมืออาชีพ
  • ความคมชัด : การออกแบบที่มีฟอนต์ที่อ่านยากอาจทำให้ข้อความขาดความคมชัด


สำหรับผู้ออกแบบที่ต้องการสื่อสารข้อมูล และความหมายในการออกแบบ ควรเลือกฟอนต์ที่อ่านได้ง่าย โดยสามารถถ่ายทอดข้อความ ความรู้สึกได้อย่างชัดเจน และมีประสิทธิภาพ.

3. ปรับขนาดฟอนต์ไม่ได้
การเลือกใช้ฟอนต์ที่ไม่สามารถปรับขนาดได้ในการออกแบบ อาจทำให้เกิดปัญหาต่างๆได้ดังนี้

  • การแสดงผลไม่สม่ำเสมอ : การไม่สามารถปรับขนาดฟอนต์ได้อาจทำให้ข้อความแสดงผลไม่สม่ำเสมอในอุปกรณ์ต่าง ๆ หรือขนาดหน้าจอที่แตกต่างกัน นั่นคือ อาจเป็นไปได้ว่าฟอนต์มีขนาดเล็กเกินไปหรือใหญ่เกินไปในบางอุปกรณ์
  • อ่านยาก : ในบางกรณีฟอนต์ที่ไม่สามารถปรับขนาดได้อาจทำให้ผู้ใช้งานอ่านได้ยาก โดยเฉพาะกับกลุ่มผู้ใช้ที่มีปัญหาด้านการมองเห็น
  • การประยุกต์ใช้ : การออกแบบที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการของผู้ใช้ สามารถประยุกต์ใช้ได้ในหลายๆสถานการณ์ แต่หากฟอนต์ไม่สามารถปรับขนาดได้ อาจจะนำไปประยุกต์ใช้ได้น้อยกว่า
  • ปัญหาทางเทคนิค : ฟอนต์ที่ไม่สามารถปรับขนาดได้อาจสร้างปัญหาในการทำงานร่วมกับบางเทคโนโลยีหรือเครื่องมือออกแบบ อาจทำให้การแสดงผลบนบางแพลตฟอร์มมีปัญหา


การเลือกใช้ฟอนต์ที่สามารถปรับขนาดได้อย่างอิสระจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ เพื่อรองรับความต้องการและประสบการณ์การใช้งานที่ดีของผู้ใช้

4. การเลือกใช้ฟอนต์ที่ไม่เหมาะสม
เลือกใช้ฟอนต์ที่ไม่เหมาะสมในการออกแบบหรือการสื่อสารสามารถส่งผลกระทบต่อการรับรู้ข้อความหรือแบรนด์ได้ดังนี้


  • ข้อความหายไป : บางฟอนต์อาจไม่มีตัวอักษรเฉพาะที่จำเป็นสำหรับข้อความบางประเภท หรือมีการแสดงผลที่ไม่ครบถ้วน เช่น ฟอนต์ที่ไม่รองรับภาษาไทย
  • ส่งผลกระทบต่อแบรนด์ : ความรู้สึกและบรรยากาศที่ถูกสื่อสารผ่านฟอนต์มีส่วนสำคัญในการสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ การเลือกฟอนต์ที่ไม่ตรงกับแนวคิดของแบรนด์จะทำให้การสื่อสารไม่สอดคล้องกัน
  • การรับรู้ : การอ่านฟอนต์ที่ไม่ชัดเจนหรือฟอนต์ที่มีความซับซ้อนมากเกินไปอาจทำให้ผู้อ่านรู้สึกเบื่อหน่าย


การเลือกฟอนต์ที่เหมาะสม และสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการสื่อสารเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับการสร้างความประทับใจ และการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ

5. การใช้ฟอนต์ที่ติดลิขสิทธิ์
การใช้ฟอนต์ที่ติดลิขสิทธิ์ในงานออกแบบ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ถือลิขสิทธิ์ สามารถส่งผลเสียแก่นักออกแบบและองค์กรที่เกี่ยวข้องในหลายด้าน ดังนี้ การเลือกใช้ฟอนต์ที่ติดลิขสิทธิ์โดยไม่มีการอนุญาต เป็นการฝ่าฝืนลิขสิทธิ์ของผู้สร้างซึ่งอาจนำไปสู่การถูกฟ้องร้องทางกฎหมาย นักออกแบบหรือองค์กรอาจต้องเสียค่าเสียหายที่สูง และการดาวน์โหลดฟอนต์จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือมีความเสี่ยงที่จะมีไวรัส การใช้ฟอนต์แบบไม่ถูกต้องอาจทำให้ภาพลักษณ์ ความน่าเชื่อถือลดน้อยลง และคุณภาพงานออกแบบลดลง เช่น ข้อมูลไม่ครบถ้วน มีข้อผิดพลาด หรือไม่สามารถใช้งานได้กับโปรแกรมออกแบบอื่น 

การหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดเหล่านี้เป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับนักออกแบบทุกคน เพราะจะช่วยให้งานออกแบบของคุณดูมืออาชีพ สื่อสารได้ถูกต้องและมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้