CMYK และ RGB คืออะไร? พร้อมความแตกต่างที่ควรรู้

Last updated: 16 ต.ค. 2567  |  36 จำนวนผู้เข้าชม  | 

CMYK และ RGB คืออะไร? พร้อมความแตกต่างที่ควรรู้

CMYK และ RGB คืออะไรและมีความแตกต่างอย่างไร?  
   

CMYK คือ ระบบสีที่ใช้ในการพิมพ์กล่อง และในอุตสาหกรรมการพิมพ์กล่องแพคเกจจิ้งระบบนี้เป็นการผสมสีแบบ “subtractive”  ซึ่งเป็นการผสมสีโดยการลดความสว่างของแสง โดยระบบ CMYK นั้นย่อมาจากตัวย่อของสีหลักที่ใช้ในระบบนี้ ได้แก่ Cyan (ฟ้า), Magenta (แดง-ม่วง), Yellow (เหลือง) และ Key (Black หรือ สีดำ)

5 หลักการทำงานของ CMYK

1. Subtractive Color Mixing 

ใน CMYK การผสมสีทำโดยการลบสีขาวออกจากแสง การพิมพ์เริ่มจากกระดาษสีขาว และเพิ่มหมึกของสี Cyan, Magenta, Yellow และ Black เข้าไป

2. สำหรับงานพิมพ์

ระบบ CMYK ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในเครื่องพิมพ์ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องพิมพ์ออฟเซ็ท, เครื่องพิมพ์ดิจิทัล หรือเครื่องพิมพ์อื่นๆ

3. ความถูกต้องของสี

ในระบบ CMYK มีความสามารถในการแสดงหรือพิมพ์สีออกมาให้เป็นไปตามที่ต้องการ หรือตามที่ออกแบบไว้ โดยไม่มีความคลาดเคลื่อนจากสีต้นฉบับ เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับงานออกแบบกล่อง, งานพิมพ์กล่อง และงานที่เกี่ยวข้องกับสีทั้งหมด

4. การจัดการสี 

ในระบบ CMYK  เป็นกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการควบคุม, การประเมิน และการปรับปรุงการแสดงผลสีในการพิมพ์ เพื่อให้ได้สีที่ตรงตามความต้องการและสอดคล้องกับสิ่งที่เราเห็น บนจอคอมพิวเตอร์ หรือแม่กระทั่งสีต้นฉบับ

5. คุณภาพการพิมพ์ 

คุณภาพของการพิมพ์กล่องสามารถเปรียบเทียบได้ผ่าน DPI (Dots Per Inch)ซึ่งเป็นหน่วยที่ใช้วัดความละเอียดหรือความคมชัดของภาพ โดยเฉพาะในการเรื่องของการพิมพ์ DPI บ่งบอกถึงจำนวนจุดที่เครื่องพิมพ์สามารถพิมพ์ได้ ซึ่งยิ่ง DPI สูง ภาพที่ได้จะยิ่งมีความคมชัดและละเอียด มากขึ้น ในส่วนของการแสดงผลหน้าจอ DPI บ่งบอกถึงจำนวนจุดพิกเซลที่หน้าจอแสดงได้ การใช้ DPI ในบริบทนี้อาจจะเกี่ยวข้องกับการสแกนภาพ

การประยุกต์ใช้ระบบสี CMYK

1. ออกแบบกราฟิก 

นักออกแบบกราฟิกส่วนใหญ่ เวลาออกแบบกล่องบรรจุภัณฑ์จะเริ่มด้วยการออกแบบในระบบสี RGB และแปลงเป็น CMYK เมื่อเตรียมพิมพ์ แต่สีอาจจะเพี้ยนเวลาแปลงเป็น  CMYK ดังนั้นแนะนำให้ออกแบบกล่องในระบบสี CMYK เลย

2. การพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ 

ในการออกแบบบรรจุภัณฑ์กล่องครีม, การใช้ระบบสี CMYK มีความสำคัญมากเพื่อให้ได้สีที่ถูกต้องเมื่อไปถึงขั้นตอนการพิมพ์

3. ศิลปะและการถ่ายภาพ 

การพิมพ์ภาพถ่ายหรืองานศิลปะก็มักใช้ระบบ CMYK เพื่อให้สีสอดคล้องกับงานศิลป์ที่สร้างขึ้น

4. การประเมินสี

การทำ Proof หรือการทดสอบพิมพ์ ก่อนการพิมพ์จริงเป็นขั้นตอนที่จำเป็นเพื่อตรวจ สอบว่าสีที่ได้ตรงตามที่ต้องการหรือไม่


ระบบสี CMYK เป็นระบบสีที่เหมาะสมสำหรับการพิมพ์ และการมีความเข้าใจในระบบนี้เป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับนักออกแบบกราฟิก, นักพิมพ์, และบุคคลในอุตสาหกรรมพิมพ์เป็นอย่างยิ่ง

 

                                                 
RGB ย่อมาจาก

Red (แดง), Green (เขียว), และ Blue (น้ำเงิน) ซึ่งเป็นระบบสีที่ใช้พื้นฐานของแสงสำหรับการสร้างและแสดงสีบนอุปกรณ์ที่ปล่อยแสงออกมา เช่น จอคอมพิวเตอร์, โทรศัพท์มือถือ, ทีวี ฯลฯ

4 หลักการทำงานของ RGB

1. Additive Color Mixing

การผสมสีในระบบ RGB ใช้หลักการเติมสี เมื่อมีการเพิ่มแสงสีบนจอที่ดำ (หรือไม่มีแสงเลย) สีจะเริ่มต้นที่สีดำ และเพิ่มความสว่างเข้าไป เมื่อเราเพิ่มแสงสีแดง, เขียว, และน้ำเงินเข้าไปพร้อม ๆ กันที่ความเข้มสูงสุด จะได้สีขาว

2. ช่วงค่าของแต่ละสี 

สำหรับการแสดงผลดิจิทัล แต่ละสีภายใน RGB มักจะมีค่าระหว่าง 0 ถึง 255 (ในรูปแบบ 8 บิต) ซึ่งแสดงถึงระดับความสว่างของสี 0 หมายถึงไม่มีแสงสีนั้นเลย ในขณะที่ 255 หมายถึงมีแสงสีนั้นเต็มที่

3. การสร้างสีผสม

สีแดง (Red) + สีเขียว (Green) = สีเหลือง (Yellow)

สีแดง (Red) + สีน้ำเงิน (Blue) = สีม่วง (Magenta)

สีเขียว (Green) + สีน้ำเงิน (Blue) = สีฟ้า (Cyan)

4. สีขาวและสีดำ 

เมื่อผสมสี RGB ทั้งสามสีด้วยกันที่ความเข้มสูงสุด (255, 255, 255) จะได้สีขาวเมื่อไม่มีแสงสีใด ๆ ทั้งสิ้น (0, 0, 0) จะได้สีดำ

การประยุกต์ใช้ระบบสี RGB

1. การออกแบบ Preliminary

บางครั้ง, ดีไซน์เนอร์จะเริ่มด้วยการออกแบบในรูปแบบ RGB เนื่องจาก ภาพที่ถ่ายหรือแสดงผลบนจอคอมพิวเตอร์จะเป็นรูปแบบ RGB

2. การแปลงสี

การแปลงสีจากระบบ RGB ไปยัง CMYK เป็นขั้นตอนที่สำคัญในกระบวนการเตรียมไฟล์สำหรับการพิมพ์กล่องบรรจุภัณฑ์ มักจะต้องมีการปรับแต่งสีเพื่อให้ใกล้เคียงกับผลลัพธ์ที่จะพิมพ์ออกมา

3. Digital Proofing

เมื่อทำการปรู๊ฟสีดิจิทัล (Digital Proofing) ส่วนใหญ่จะใช้จอที่เป็นระบบสี RGB ในการประเมินผลสีที่จะออกมาจากการพิมพ์

4. สื่อโฆษณาและสื่อออนไลน์

ถึงแม้ว่าสื่อพิมพ์จะใช้ระบบสี CMYK แต่สื่อโฆษณาออนไลน์ที่คิดค้น จากแคมเปญโฆษณาที่เดียวกันมักจะใช้ระบบสี RGB

ระบบสี RGB ถูกใช้งานอย่างแพร่หลายในอุปกรณ์ดิจิทัล เนื่องจากการประมวลผลและการแสดงผลของสีด้วยแสงทำได้ง่ายและทำให้เราสามารถเห็นสีที่สว่างและชัดเจน.

ความแตกต่างระหว่าง CMYK และ RGB

การเข้าใจความแตกต่างระหว่างระบบสี CMYK และ RGB เป็นสิ่งที่มีความสำคัญในงานด้านการออกแบบกราฟิกและการผลิตสื่อ ระบบสีเหล่านี้มีวัตถุประสงค์และลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกัน:

ประเภทของระบบสี

RGB : ระบบสีแบบเพิ่มเติม (Additive Color System) ใช้สีแดง (Red) สีเขียว (Green) และสีน้ำเงิน (Blue) ผสมรวมกันเพื่อสร้างสีต่าง ๆ ในต้นฉบับดิจิทัล เมื่อผสมทั้งสามสีนี้เข้าด้วยกันจะได้สีขาว
CMYK : ระบบสีแบบลบ (Subtractive Color System) ใช้ฟ้า (Cyan) สีแดง-ม่วง (Magenta) สีเหลือง(Yellow)และสีดำ (Key) ผสมรวมกันเพื่อสร้างสีต่าง ๆ สำหรับการพิมพ์ เมื่อผสมสี CMYKเข้าด้วยกันจะได้สีดำ (แต่ในการพิมพ์มากมาย การเพิ่มสีดำจริงๆ จะทำให้ได้สีดำที่ชัดขึ้น)

การใช้งานของระบบสี

RGB : จะไม่ค่อยใช้ในการทำงานด้านกราฟิกและการพิมพ์ แต่ใช้กับอุปกรณ์ที่มีแสงเช่น จอคอมพิวเตอร์,กล้องดิจิทัล และอื่นๆ

CMYK : ใช้สำหรับงานพิมพ์เช่น งานพิมพ์กล่องครีม หรือกล่องบรรจุภัณฑ์อื่นๆ และวางแผนการออกแบบที่ต้องการพิมพ์บน กระดาษ

ความแตกต่างในการแสดงสี

RGB : ครอบคลุมพื้นที่สีที่กว้างขึ้น เพราะมีความสามารถในการผสมสีจากแสง

CMYK : อาจจะจำกัดพื้นที่สีได้เนื่องจากมันขึ้นอยู่กับสีหมึกและวัสดุการพิมพ์

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้